ภายหลังจากศาลอังกฤษ ตัดสินให้ ณพ ณรงค์เดช และ พวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 30,000 ล้านบาท ในคดีโกงหุ้นโรงไฟฟ้า แก่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด นั้นคำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น

วันนี้ 1 ส.ค. ทีมข่าวเดลินิวส์ จะพามาทำความรู้จัก นายนพพร ศุภพิพัฒน์ หรือเสี่ยนิค กัน โดย เสี่ยนิค เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ติดอันดับที่ 31 ใน 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี พ.ศ. 2557 จากนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ถือเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มดาวรุ่ง ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 25,600 ล้านบาท

‘นพพร ศุภพิพัฒน์’ ชนะคดีโกงหุ้น ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่’ รับค่าเสียหายกว่า 30,000 ล้านบาท

ข้อมูลย้อนหลังของนายนพพร มหาเศรษฐีหนุ่มเมืองไทย พบว่าเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารในแวดวงธุรกิจ, นิตยสารดัง ๆ เมืองไทยมาหลายฉบับด้วยกัน โดยล่าสุดมีภาพขึ้นปกนิตยสาร Who ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เปิดใจมหาเศรษฐีหนุ่มหมื่นล้านเมืองไทย กับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดดี แต่เติบโตมาค่อนข้างรวดเร็วอย่างไม่มีคนรู้จักนัก

ย้อนหลังไปวัยเด็ก ใช้ชีวิตทั้งในเมืองไทยและสหรัฐอเมริกา ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เริ่มก้าวเข้ามาลงทุนเล่นหุ้นไปด้วยในวัยเพียง 21 ปี จนรวยถึง 26 ล้านบาท จากนั้นสูญเงินทั้งหมดไปกับการทำนิตยสาร แต่ได้หวนกลับมาตั้งต้นใหม่กับธุรกิจพลังงานทางเลือกในปี พ.ศ. 2548 จนประสบความสำเร็จและสร้างความฮือฮา เพราะมีแรงหนุนจากทั้งคนดัง นักการเมือง

การตั้งต้นใหม่กับการจับธุรกิจพลังงานทางเลือก ในฐานะผู้พัฒนาโครงการพลังงานลมแห่งแรก ที่ได้ทำการตรวจวัดลมที่พิสูจน์ได้ว่าที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีศักยภาพที่จะก่อสร้างทุ่งกังหันลมเชิงพาณิชย์ได้ของประเทศไทย แล้วจึงก่อตั้งบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,088,373,000 บาท ทั้งนี้ บริษัทวินด์ฯ มีเป้าหมายที่จะลงทุนและพัฒนาพลังงานลมในประเทศจำนวนมาก โดยในระยะแรกได้ตั้งเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศให้ได้กว่า 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งใกล้เคียงกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 10 ปี (2555-2564) ของกระทรวงพลังงานคำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น

กระทั่งปี 2557 นายนพพร มีชื่อกลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ ติดอันดับที่ 31 ของฟอร์บส์ ไทยแลนด์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมกิจการพลังงานไฟฟ้าทางเลือก (ทำโรงงานไฟฟ้าพลังลม ให้บริษัทมีกำไรสุทธิถึงเกือบ 1.2 พันล้านบาทเมื่อปี พ.ศ. 2556) ที่สำคัญมีการวางแผนที่จะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปในปี พ.ศ. 2558 เพื่อขยายบริษัทออกไปในภูมิภาค และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน

ก่อนที่ชื่อของนายนพพร จะเป็นที่รู้จัก จากการที่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ขณะนั้นอายุ 43 ปี ถูกซัดทอดจากแก๊งทวงหนี้กลุ่ม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ว่าเป็นผู้ว่าจ้างให้นายชลัช โพธิราช และ นายณัฐนันท์ ทานะเวช และพวก อุ้มตัว นายบัณฑิต โชติวิทยะกุล นักธุรกิจ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของนายนพพร ไปข่มขู่ เพื่อให้ลดหนี้จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท คดีนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมนายนพพร เนื่องจากได้หลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว แต่ได้ออกหมายจับตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ เลขที่ 138/2557 (ลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557) ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ม.112, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด

กระทั่งมีรายงานว่าหลังจากนายนพพร นักธุรกิจดาวรุ่ง มหาเศรษฐีหนุ่มเมืองไทย ถูกออกหมายจับได้หลบหนีออกนอกประเทศไทยไปทางด่านบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มุ่งเข้าประเทศกัมพูชา สันนิษฐานว่าจะหาช่องทางหลบหนีต่อไปทางฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะอยู่ที่ประเทศแคนาดา จนถึงปัจจุบัน.

ส่องประวัติ ‘นพพร ศุภพิพัฒน์’ ผู้ชนะคดีโกงหุ้น รับค่าเสียหายกว่า 30,000 ล้านบาท

admin